เมื่อผมค้นดูภาพต่างๆ ที่เคยถ่ายไว้ในฐานะช่างภาพมืออาชีพ ผมสังเกตว่าเลนส์ที่ผมใช้งานบ่อยมากที่สุดคือเลนส์ EF24-105mm f/4L IS USM
ผมได้ถ่ายภาพแนวสตรีทไว้เป็นจำนวนมากและเลนส์นี้ช่วยให้ผมถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยเลนส์เพียงตัวเดียว ดังนั้น เมื่อได้ยินข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเลนส์ ผมจึงอดตั้งตารอคอยไม่ได้ว่าเลนส์น้องใหม่นี้จะมีอะไรมานำเสนอบ้าง หลังจากได้ทดสอบถ่ายภาพโดยใช้เลนส์คู่กับกล้อง EOS 5D Mark IV ความละเอียด 30.4 ล้านพิกเซลแล้ว ผมรู้สึกดีใจที่ได้ทราบว่า EF24-105mm f/4L IS II USM สามารถแสดงพลังการถ่ายทอดภาพของกล้อง DSLR ความละเอียดสูงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
ในตอนแรก ผมมีข้อกังขาอยู่บ้างเมื่อทราบว่าเลนส์รุ่นนี้ไม่ได้รวมชิ้นเลนส์ UD ซึ่งเป็นเลนส์ที่เคยใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ (EF24-105mm f/4L IS USM) เอาไว้ แต่เมื่อนำมาทดสอบถ่ายภาพกลับพบว่าปัญหาความคลาดสีได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น และมีการแก้ไขปัญหาที่บริเวณขอบภาพด้วยการใช้เลนส์แก้ความคลาดทรงกลมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถของระบบป้องกันภาพสั่นไหวยังได้รับการพัฒนาจาก 1.5 สต็อป ขึ้นมาเทียบเท่าที่ประมาณ 4 สต็อป เราจึงสามารถเปลี่ยนภาพถ่ายที่แสดงขึ้นในช่องมองภาพพร้อมกับขยับกล้องไปมาได้อย่างราบรื่น ซึ่งให้ความรู้สึกที่เพลิดเพลินอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่คุณแพนกล้อง ผมจึงรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก เพราะนี่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาของเลนส์ไม่ได้มีเพียงแง่ของสเปคเพียงอย่างเดียว EOS 5D Mark IV/ EF24-105mm f/4L IS II USM/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/320 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ จุดเด่นอย่างหนึ่งของเลนส์รุ่นนี้คือ ให้ผลภาพที่น่าพึงพอใจทั้งในระยะมุมกว้างที่ 24 มม. และในระยะเทเลโฟโต้ที่ 105 มม. ดังเช่นในภาพตัวอย่างด้านบนนี้ ผมสามารถถ่ายภาพทั้งเรือและท้องฟ้าสีฟ้าไว้ได้ พร้อมกับมีอาคารขนาดมหึมาเป็นตัวแบบหลัก โดยใช้ทางยาวโฟกัส 24 มม. อีกทั้งทั่วทั้งภาพยังมีความละเอียดคมชัดอีกด้วย
ความไวในการโฟกัสสูงและไร้ที่ติ การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นคือ ม่านรูรับแสงจำนวน 10 กลีบ ซึ่งเป็นจำนวนคู่ หากเรามองดูเลนส์ซูมมาตรฐานที่วางจำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงจากผู้ผลิตรายอื่นๆ เลนส์นี้อาจเป็นเลนส์เพียงหนึ่งเดียวที่ใช้ม่านรูรับแสงเป็นจำนวนคู่ ซึ่งสำหรับการถ่ายภาพยามค่ำคืนที่การสร้างเอฟเฟ็กต์แฉกแสงมักเป็นองค์ประกอบสำคัญ เลนส์นี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากม่านรูรับแสงจำนวนคู่จะช่วยลดจำนวนแนวเส้นแสงที่เกิดขึ้น และช่วยให้เราสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเอฟเฟ็กต์แฉกแสงได้อย่างชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ เอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เกิดจากเลนส์ยังมีเส้นขอบที่นุ่มนวลมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสื่อถึงความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น EOS 5D Mark IV/ EF24-105mm f/4L IS II USM/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/4, 1/2,500 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพ เพราะขณะนั้นท้องฟ้าแจ่มใสและมีแสงแดดจ้าอยู่ในองค์ประกอบภาพ อย่างไรก็ดี เลนส์สามารถป้องกันแสงหลอกที่เห็นได้ชัด พร้อมทั้งช่วยเกลี่ยแสงที่เนียนสวยให้กับท้องฟ้าจากสีขาวเป็นสีฟ้าได้ นอกจากนี้ แสงแฟลร์ยังลดลงและสีสันของดอกดาวกระจายยังถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม EOS 5D Mark IV/ EF24-105mm f/4L IS II USM/ FL: 105 มม./ Aperture-priority AE (f/4, 1/256 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ ในภาพนี้ผมตั้งโฟกัสไว้บนดอกไม้ที่อยู่ใกล้กับกล้อง แล้วเบลอภาพทั้งในส่วนโฟร์กราวด์และแบ็คกราวด์โดยใช้ค่ารูรับแสงกว้าง โครงร่างของเอฟเฟ็กต์โบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์จึงดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน ขณะที่โบเก้ในส่วนโฟร์กราวด์ที่มุมล่างซ้ายของภาพดูนุ่มนวล และช่วยเน้นความโดดเด่นให้กับตัวแบบหลัก
EF24-105mm f/4L IS II USM มี Air Sphere Coating (ASC) ใหม่ที่สามารถลดแสงแฟลร์และแสงหลอกอย่างได้ผล ขณะที่รุ่นก่อนหน้าอย่าง EF24-105mm f/4L IS USM มักเกิดแสงหลอกสีสันต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์เมื่อถ่ายแหล่งกำเนิดแสงที่สว่างจ้า แต่ปัญหานี้ลดลงไปอย่างมากในเลนส์รุ่นใหม่ และเมื่อเทียบกับเลนส์รุ่นก่อนหน้าแล้ว การป้องกันแสงแฟลร์ยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้ความเปรียบต่างที่บริเวณรอบแหล่งกำเนิดแสงลดลง นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินกับภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยคมชัดแล้ว ภาพที่มีแสงย้อนในส่วนแบ็คกราวด์ยังสวยสดงดงามไม่แพ้กัน นอกจากนี้ ฮูดเลนส์ยังมาพร้อมกับก้านล็อคแบบใหม่อีกด้วย EF24-105mm f/4L IS II USM EF24-105mm f/4L IS USM เมื่อผมถ่ายภาพนี้ด้วยเลนส์ EF24-105mm f/4L IS USM เราจะเห็นแสงหลอกรอบๆ ดวงอาทิตย์ได้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาเดียวกันนี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อใช้เลนส์ EF24-105mm f/4L IS II USM นอกจากแสงหลอกแล้ว เรายังเห็นแสงแฟลร์ที่บริเวณใกล้กับกึ่งกลางภาพเมื่อใช้ EF24-105mm f/4L IS USM ซึ่งทำให้ความเปรียบต่างของดอกดาวกระจายลดลง